วิธีการทำ Backup ข้อมูลเว็บไซต์

การทำ Backup ข้อมูลเว็บไซต์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันข้อมูลสูญหายจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การถูกโจมตีจากแฮกเกอร์, ความผิดพลาดในการอัปเดต, หรือปัญหาด้านเซิร์ฟเวอร์ การสำรองข้อมูลเป็นกระบวนการที่ช่วยให้คุณสามารถกู้คืนเว็บไซต์ของคุณกลับมาได้ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้น ในบทความนี้เราจะแนะนำวิธีการทำ Backup ข้อมูลเว็บไซต์อย่างถูกต้องและปลอดภัยเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัยจากการสูญเสียข้อมูล

🎯 1. การทำ Backup ด้วยมือ (Manual Backup)

การทำ Backup ด้วยมือเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกสำรองข้อมูลเฉพาะส่วนที่ต้องการ เช่น ไฟล์เว็บไซต์, ฐานข้อมูล, หรือโค้ดโปรแกรม การสำรองข้อมูลด้วยวิธีนี้อาจใช้เวลานาน แต่จะช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการเลือกสำรองข้อมูล

ขั้นตอนการทำ Manual Backup:

  1. สำรองไฟล์เว็บไซต์:
    • ใช้ FTP Client (เช่น FileZilla) เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของคุณ
    • ดาวน์โหลดไฟล์ทั้งหมดจากโฟลเดอร์ public_html หรือโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์เว็บไซต์ของคุณ
    • เก็บไฟล์เหล่านี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณหรือในที่เก็บข้อมูลออนไลน์
  2. สำรองฐานข้อมูล (Database Backup):
    • เข้าไปที่ phpMyAdmin ผ่านแผงควบคุม (Control Panel) ของโฮสติ้ง
    • เลือกฐานข้อมูลที่ต้องการสำรอง
    • คลิกที่ Export แล้วเลือก Quick Export และรูปแบบ SQL จากนั้นดาวน์โหลดไฟล์ฐานข้อมูลมาเก็บไว้

🎯 2. การใช้ปลั๊กอิน WordPress สำหรับ Backup

หากคุณใช้ WordPress การใช้ปลั๊กอินสำหรับ Backup ข้อมูลเว็บไซต์เป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว เพราะปลั๊กอินเหล่านี้สามารถทำงานอัตโนมัติในการสำรองข้อมูลและยังสามารถกำหนดเวลาการสำรองข้อมูลได้ตามต้องการ

ปลั๊กอินที่นิยมสำหรับ Backup WordPress:

  • UpdraftPlus: เป็นปลั๊กอินที่มีความสามารถในการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ และสามารถบันทึกข้อมูลไปยังคลาวด์ (Google Drive, Dropbox, Amazon S3 เป็นต้น)
  • BackupBuddy: ช่วยในการสำรองข้อมูลและกู้คืนข้อมูลเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว
  • Duplicator: นอกจากการทำ Backup แล้วยังสามารถใช้ในการย้ายเว็บไซต์จากโฮสติ้งหนึ่งไปยังอีกโฮสติ้งหนึ่งได้

ขั้นตอนการใช้ UpdraftPlus:

  1. ติดตั้งปลั๊กอิน UpdraftPlus ผ่านเมนู Plugins > Add New จากนั้นค้นหาชื่อปลั๊กอินและคลิก Install Now
  2. เมื่อการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ให้คลิกที่ Activate
  3. ไปที่เมนู Settings > UpdraftPlus Backups
  4. เลือกแหล่งที่ต้องการสำรองข้อมูล (เช่น Google Drive, Dropbox)
  5. ตั้งค่าระยะเวลาการทำ Backup อัตโนมัติ และคลิก Save Changes
  6. คลิกที่ Backup Now เพื่อทำการสำรองข้อมูลทันที

🎯 3. การทำ Backup ผ่าน cPanel (สำหรับโฮสติ้งที่ใช้ cPanel)

ถ้าคุณใช้โฮสติ้งที่รองรับ cPanel คุณสามารถทำการสำรองข้อมูลได้ง่ายๆ ผ่านเครื่องมือที่มีอยู่ใน cPanel โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินหรือเครื่องมือเพิ่มเติม

ขั้นตอนการทำ Backup ผ่าน cPanel:

  1. เข้าสู่ระบบ cPanel ของคุณ
  2. ไปที่เมนู Backup ในส่วนของ Files
  3. คลิกที่ Download a Full Website Backup
  4. เลือกที่เก็บไฟล์ Backup (เช่น Home Directory) และเลือก Generate Backup
  5. ระบบจะสร้างไฟล์ Backup และส่งลิงก์ให้คุณดาวน์โหลด
  6. นอกจากนี้คุณยังสามารถสำรองฐานข้อมูลได้จากเมนู phpMyAdmin ตามขั้นตอนที่กล่าวมาในส่วนก่อนหน้านี้

🎯 4. การใช้บริการ Backup อัตโนมัติจากผู้ให้บริการโฮสติ้ง

หลายๆ ผู้ให้บริการโฮสติ้งในปัจจุบันมีบริการ Backup อัตโนมัติให้กับลูกค้า โดยมีการสำรองข้อมูลทั้งไฟล์เว็บไซต์และฐานข้อมูลเป็นระยะ เช่น ทุกๆ วันหรือทุกๆ สัปดาห์

ข้อดีของการใช้บริการ Backup อัตโนมัติ:

  • ไม่ต้องกังวลเรื่องการทำ Backup ด้วยตัวเอง
  • สามารถเลือกการตั้งค่าบริการ Backup ที่เหมาะสมกับความต้องการได้
  • สามารถกู้คืนข้อมูลได้ทันทีในกรณีที่เกิดปัญหากับเว็บไซต์

หากผู้ให้บริการโฮสติ้งของคุณมีบริการนี้ คุณควรเปิดใช้งานและตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่าการสำรองข้อมูลเป็นระยะเวลาเหมาะสม


🎯 5. การเก็บข้อมูล Backup

การเก็บไฟล์ Backup ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การทำ Backup ข้อมูล โดยคุณสามารถเลือกเก็บไฟล์ Backup ได้หลายวิธี เช่น การเก็บไว้ในที่เก็บข้อมูลออนไลน์, ฮาร์ดดิสก์ภายนอก, หรือบริการคลาวด์ เช่น Google Drive, Dropbox หรือ Amazon S3

วิธีการเก็บ Backup:

  • ใช้บริการคลาวด์เพื่อเก็บไฟล์ Backup เช่น Google Drive, Dropbox หรือ OneDrive
  • เก็บไฟล์ Backup ไว้ในฮาร์ดดิสก์ภายนอกหรือ SSD เพื่อความปลอดภัยจากการสูญหายของข้อมูล
  • สร้างสำเนา Backup หลายๆ ชุดเก็บในที่ต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญหาย

📌 สรุป

การทำ Backup ข้อมูลเว็บไซต์เป็นการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถกู้คืนเว็บไซต์ได้ในกรณีที่ข้อมูลสูญหายหรือเกิดปัญหาขึ้น การเลือกวิธีการสำรองข้อมูลที่เหมาะสม เช่น การใช้ปลั๊กอิน, cPanel, หรือบริการ Backup อัตโนมัติจากโฮสติ้ง จะช่วยให้การสำรองข้อมูลของคุณเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย

การทำ Backup ข้อมูลเว็บไซต์ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากในการรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์และข้อมูลสำคัญของคุณ

Related Posts

Zoho Social คืออะไร?

Zoho Social คืออะไร? คุ้มค่าไหม?

ในยุคดิจิทัล โซเชียลมีเดีย เป็นหัวใจสำคัญของการตลาดออนไลน์ แต่การจัดการหลายแพลตฟอร์มพร้อมกันอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก!

Read More
Zoho Workplace vs Microoft Teams

Zoho Workplace vs Microsoft Teams อะไรดีกว่า?

ในยุคที่การทำงานออนไลน์กลายเป็นสิ่งจำเป็น ธุรกิจจำเป็นต้องเลือกแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Read More