Zoho Vault กับ LastPass: ตัวไหนดีกว่าสำหรับคุณ?

ปัจจุบัน การใช้งานออนไลน์เป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเงิน หรือโซเชียลมีเดีย การมีรหัสผ่านที่ปลอดภัยและจัดการได้ง่ายเป็นสิ่งจำเป็น Zoho Vault และ LastPass เป็นสองตัวจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) ที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่คำถามคือ ตัวไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน?

Zoho Vault กับ LastPass

1. ความปลอดภัย: ใครแน่กว่า?

ความปลอดภัยเป็นปัจจัยหลักของโปรแกรมจัดการรหัสผ่าน เพราะข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้นั้นมีความสำคัญมาก

🔐 Zoho Vault

• ใช้ การเข้ารหัส AES-256 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงในการรักษาความปลอดภัย
• ใช้ระบบ Zero-Knowledge Encryption ซึ่งหมายความว่าแม้แต่ Zoho เองก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้
• มี การยืนยันตัวตนหลายปัจจัย (MFA) และรองรับการใช้ YubiKey และ TOTP

🔐 LastPass

• ใช้ AES-256 Encryption เช่นเดียวกับ Zoho Vault
• รองรับ Multi-Factor Authentication (MFA) ผ่านแอป Google Authenticator และ Microsoft Authenticator
• อย่างไรก็ตาม LastPass เคยประสบปัญหา ข้อมูลรั่วไหล หลายครั้งในอดีต ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานลดลง

👉 Zoho Vault มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากไม่มีประวัติการถูกเจาะระบบ

2. ราคา: ตัวไหนคุ้มค่ากว่า?

เมื่อเทียบกันในเรื่องของค่าใช้จ่าย Zoho Vault มีแนวโน้มที่จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ

💰 Zoho Vault

• แพ็กเกจฟรี: รองรับผู้ใช้ส่วนตัว สามารถจัดเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัด
• แพ็กเกจธุรกิจ: เริ่มต้นที่ $0.90/ผู้ใช้/เดือน
• Enterprise Plan: ฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับองค์กรขนาดใหญ่

💰 LastPass

• แพ็กเกจฟรี: จำกัดให้ใช้ได้บนอุปกรณ์ประเภทเดียว (มือถือหรือคอมพิวเตอร์)
• แพ็กเกจพรีเมียม: เริ่มต้นที่ $3/เดือน สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
• แพ็กเกจธุรกิจ: เริ่มต้นที่ $4/ผู้ใช้/เดือน

👉 Zoho Vault คุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะในแง่ของ แพ็กเกจฟรีและค่าใช้จ่ายสำหรับองค์กร

3. การใช้งานและฟีเจอร์: ตัวไหนให้ฟีเจอร์ที่ดีกว่า?

✅ Zoho Vault

• จัดเก็บรหัสผ่าน ได้ไม่จำกัด
• รองรับการ แชร์รหัสผ่านกับทีม โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลจริง
• มีระบบ Role-Based Access Control (RBAC) สำหรับธุรกิจ
• รองรับ การสำรองข้อมูลอัตโนมัติและการตรวจสอบกิจกรรมของผู้ใช้
• สามารถเชื่อมต่อกับ Zoho Ecosystem เช่น Zoho One, Zoho CRM

✅ LastPass

• มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และ ระบบ Autofill ที่สะดวก
• รองรับการสร้างรหัสผ่านอัตโนมัติที่ปลอดภัย
• มีระบบ Emergency Access ให้บุคคลอื่นเข้าถึงรหัสผ่านในกรณีฉุกเฉิน
• รองรับ Dark Web Monitoring แจ้งเตือนหากรหัสผ่านของคุณรั่วไหลบนอินเทอร์เน็ต

👉 LastPass เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ที่ต้องการอินเทอร์เฟซใช้ง่ายและระบบกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติ แต่ Zoho Vault มีฟีเจอร์สำหรับธุรกิจที่ดีกว่า

4. การรองรับแพลตฟอร์ม

ทั้งสองโปรแกรมรองรับการใช้งานบนหลายแพลตฟอร์ม ได้แก่

📱 Zoho Vault

• รองรับ Windows, Mac, Linux
• แอปมือถือสำหรับ iOS และ Android
• ส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox, Edge, Safari

📱 LastPass

• รองรับ Windows, Mac, Linux
• แอปมือถือสำหรับ iOS และ Android
• ส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox, Edge, Opera, Safari

👉 LastPass รองรับเบราว์เซอร์มากกว่า แต่ทั้งสองตัวสามารถใช้งานบนอุปกรณ์หลักๆ ได้ครบถ้วน

5. ใครเหมาะกับใคร?

🔹 เลือก Zoho Vault ถ้าคุณ…
✅ ต้องการ ความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการเข้ารหัส Zero-Knowledge
✅ มองหา โซลูชันสำหรับธุรกิจ ที่มีฟีเจอร์การแชร์และควบคุมสิทธิ์
✅ ต้องการ แผนราคาถูกกว่าและคุ้มค่าในระยะยาว

🔹 เลือก LastPass ถ้าคุณ…
✅ ต้องการ อินเทอร์เฟซที่ใช้ง่าย และรองรับ Autofill ที่สะดวก
✅ อยากได้ ระบบแจ้งเตือน Dark Web Monitoring
✅ ไม่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าหากต้องการใช้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบ

สรุป: Zoho Vault กับ LastPass – ตัวไหนดีกว่ากัน?

หากคุณมองหาตัวจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัย ราคาคุ้มค่า และมีฟีเจอร์ระดับธุรกิจ Zoho Vault คือตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีระบบ Autofill ที่สะดวก LastPass อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับคุณ

หากสนใจระบบองค์กรติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Facebook fanpage ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Line Official