Zoho CRM: เข้าสู่ระบบและเริ่มต้นใช้งาน

สำหรับหลายธุรกิจ Zoho CRM คือจุดเริ่มต้นของการ “เอางานขายและข้อมูลลูกค้าเข้าไปอยู่ในระบบเดียว” ให้ทีมขายทำงานเป็นขั้นตอนและตามงานลูกค้าได้ง่ายขึ้น

บทความนี้จะพาไปทีละสเต็ป ตั้งแต่การเข้าสู่ระบบ (Login) ครั้งแรก ไปจนถึงการตั้งค่าพื้นฐานและการเริ่มใช้งานจริงในวันแรก เหมาะสำหรับ มือใหม่ที่เพิ่งได้ Zoho CRM มาใช้ และอยากเริ่มให้ถูกตั้งแต่ต้น

Zoho CRM

1) ก่อนเริ่มใช้ Zoho CRM ควรเตรียมอะไรบ้าง?

ก่อนเข้าสู่ระบบ แนะนำให้เตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อม:

  • อีเมลทำงาน (Company Email)
    ใช้สมัครและเป็นบัญชีหลักของผู้ดูแลระบบ (Admin)
  • ข้อมูลบริษัทคร่าว ๆ
    เช่น ชื่อบริษัท, ที่อยู่, เบอร์โทร, เว็บไซต์, โลโก้
  • เบื้องต้นเกี่ยวกับทีมขาย
    • มี Sales กี่คน
    • อยากให้ใครเป็น Admin / ใครเป็น User
  • เบราว์เซอร์ที่รองรับ
    เช่น Chrome, Edge, Safari เวอร์ชันล่าสุด เพื่อการใช้งานที่ลื่นที่สุด

2) วิธีเข้าสู่ระบบ Zoho CRM ครั้งแรก

2.1 สมัครบัญชีใหม่

  1. เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ Zoho CRM
  2. กดปุ่ม Sign Up / สมัครใช้งาน
  3. กรอกข้อมูลเบื้องต้น:
    • ชื่อ – นามสกุล
    • อีเมลทำงาน
    • เบอร์โทร (ถ้ามี)
    • ตั้งรหัสผ่าน
  4. ยืนยันอีเมล (คลิกลิงก์ที่ได้รับในกล่องจดหมาย)

เมื่อยืนยันเรียบร้อย ระบบจะพาเข้าสู่ Zoho CRM โดยอัตโนมัติ และเริ่มขั้นตอนตั้งค่าพื้นฐาน

2.2 กรณีมีบัญชี Zoho อยู่แล้ว

ถ้าเคยใช้ Zoho ตัวอื่นมาก่อน (เช่น Zoho Mail, Zoho Books, Zoho Desk):

  1. เข้าเว็บ Zoho CRM
  2. กด Sign In / เข้าสู่ระบบ
  3. กรอกอีเมลและรหัสผ่าน Zoho เดิมของคุณ
  4. เลือก Zoho CRM จากแอปในระบบ (App Launcher)

หรือถ้าทีม IT / ที่ปรึกษาระบบสร้าง Organization ให้แล้ว เมื่อ Login ด้วยอีเมลนั้น คุณจะเห็น CRM ผูกกับองค์กรเลย

2.3 เข้าสู่ระบบด้วย Google / Microsoft (ถ้าตั้งค่าไว้)

หากผูกบัญชี Google Workspace / Microsoft 365 ไว้กับ Zoho:

  1. กดปุ่ม Sign in with Google / Microsoft
  2. เลือกอีเมลขององค์กร
  3. อนุญาตการเชื่อมต่อ (ครั้งแรกเท่านั้น)

วิธีนี้ช่วยลดขั้นตอนการจำรหัสผ่านหลายชุด และสะดวกสำหรับทีมที่ใช้บัญชีองค์กรเดียวกัน

3) รู้จักหน้าหลักของ Zoho CRM หลังเข้าสู่ระบบ

หลังจาก Login สำเร็จ คุณจะเจอหน้าหลัก (ส่วนใหญ่คือ Home หรือ Dashboard) ซึ่งจะแสดงภาพรวมงานขาย เช่น กิจกรรมวันนี้ ยอดดีล และตัวเลขสำคัญอื่น ๆ

องค์ประกอบหลัก ๆ มีดังนี้:

  • เมนูด้านบน / ด้านข้าง (Modules Bar)
    ใช้สลับไปมาระหว่างโมดูล เช่น
    • Leads – ลูกค้าใหม่
    • Contacts – ผู้ติดต่อ
    • Accounts – บริษัทองค์กรลูกค้า
    • Deals – ดีล / โอกาสการขาย
    • Activities – งานที่ต้องทำ, โทร, นัดหมาย
  • ไอคอนแว่นขยาย (Global Search)
    ใช้ค้นหาลูกค้า ดีล หรือข้อมูลใด ๆ ในระบบ
  • ไอคอนกระดิ่ง (Notifications)
    แสดงการแจ้งเตือน เช่น มี Lead ใหม่, มีงานใหม่, ดีลเปลี่ยนสถานะ
  • ไอคอนเฟือง (Setup / การตั้งค่า)
    พื้นที่สำคัญสำหรับ Admin ใช้ตั้งค่าระบบ เช่น Field, Pipeline, ผู้ใช้, Automation
  • Profile มุมขวาบน
    ใช้จัดการข้อมูลส่วนตัว เปลี่ยนภาษา เปลี่ยนรหัสผ่าน หรือออกจากระบบ (Sign out)

4) ขั้นตอน “เริ่มต้นใช้งาน” Zoho CRM ในวันแรก

ส่วนนี้คือ Step แบบสั้น ๆ ที่คนเป็น Admin ควรทำหลังเข้าสู่ระบบครั้งแรก

Step 1 – ตั้งค่าองค์กร (Company Profile)

เข้าไปที่ Setup → Company Details (หรือ Organization Settings)
แล้วกรอก/ตรวจสอบ:

  • ชื่อบริษัท
  • ที่อยู่ / เบอร์โทร / เว็บไซต์
  • Timezone (เช่น Asia/Bangkok)
  • รูปแบบวันที่ / เวลา
  • ค่าเงินหลัก (เช่น THB)

สิ่งนี้จะมีผลกับรายงานและเอกสารต่าง ๆ ภายหลัง

Step 2 – ตรวจสอบและปรับโมดูลที่ใช้

ยังอยู่ในเมนู Setup → Modules & Fields

  • เปิด/ปิด โมดูลที่ยังไม่ใช้
  • จัดเรียงลำดับโมดูลที่ใช้บ่อยให้อยู่ด้านหน้า
  • ตรวจสอบ Field พื้นฐานใน Leads, Contacts, Deals ว่าตรงกับธุรกิจหรือยัง
    เช่น อาจเพิ่ม
    • ประเภทลูกค้า
    • แหล่งที่มา (Lead Source)
    • ช่องทางติดต่อหลัก

Step 3 – เพิ่มผู้ใช้ (Users) + ตั้งสิทธิ์ (Roles / Profiles)

ถ้ามีทีมขายมากกว่า 1 คน:

  1. ไปที่ Setup → Users & Control
  2. เพิ่ม Users ด้วยอีเมลของแต่ละคน
  3. กำหนด:
    • Role – โครงสร้างบน–ล่าง เช่น
      • CEO / ผู้บริหาร
      • Sales Manager
      • Sales Executive
    • Profile – สิทธิ์การใช้งาน เช่น
      • ดูได้อย่างเดียว
      • เพิ่ม/แก้ไขได้
      • ลบได้หรือไม่

การตั้งสิทธิ์ตั้งแต่ต้นช่วยให้ข้อมูลไม่มั่วและปลอดภัย

Step 4 – นำเข้าข้อมูลลูกค้าจาก Excel (Import)

ถ้าคุณมีข้อมูลลูกค้าอยู่แล้วในไฟล์ Excel:

  1. เลือกโมดูลที่ต้องการนำเข้า เช่น Leads
  2. คลิกเมนู Import
  3. อัปโหลดไฟล์ Excel
  4. จับคู่คอลัมน์ (Map Fields)
    • คอลัมน์ใน Excel กับ Field ใน Zoho CRM
  5. ยืนยันการนำเข้า

ทำแบบเดียวกันกับ Contacts / Accounts / Deals ตามโครงสร้างข้อมูลที่คุณมี

Step 5 – สร้าง Pipeline ดีล (Stages) ให้ตรงกับงานจริง

ไปที่ Deals → Pipeline / Stage Settings

ตัวอย่าง Pipeline แบบง่าย:

  1. ติดต่อครั้งแรก
  2. ส่งข้อมูล / แคตตาล็อก
  3. ส่งใบเสนอราคา
  4. เจรจา
  5. รออนุมัติ
  6. Won (ปิดดีลสำเร็จ)
  7. Lost (ปิดไม่สำเร็จ)

ให้ตั้งชื่อขั้นตอนให้ทีมเข้าใจเหมือนกันทั้งองค์กร

5) ทดลองใช้งานจริง: สร้าง Lead → ดีล → กิจกรรม

ลองทำ Flow ง่าย ๆ นี้ เพื่อให้ทีมใช้เป็น:

5.1 สร้าง Lead ใหม่

  1. เข้าโมดูล Leads
  2. กดปุ่ม Create / New Lead
  3. กรอกข้อมูล:
    • ชื่อ – นามสกุล
    • บริษัท
    • เบอร์โทร / อีเมล
    • Lead Source (มาจากช่องทางไหน)
    • หมายเหตุเบื้องต้น

บันทึก → Lead จะเข้าไปอยู่ในระบบทันที

5.2 แปลง Lead เป็นลูกค้า (Convert)

เมื่อมั่นใจว่าเป็นลูกค้าที่มีโอกาสซื้อจริง:

  1. เปิด Lead ที่ต้องการ
  2. กด Convert
  3. ระบบจะสร้าง:
    • Contact (ผู้ติดต่อ)
    • Account (องค์กรลูกค้า – ถ้ามีชื่อบริษัท)
    • Deal (ดีลใหม่)

นี่คือจุดที่ดีลเริ่มเข้าสู่ Pipeline การขาย

5.3 สร้างกิจกรรม (Tasks / Calls / Meetings)

ในหน้า Lead / Deal:

  • กด Add Task – งานที่ต้องทำ เช่น โทรตาม, ส่งใบเสนอราคา
  • กด Call / Meeting – บันทึกประวัติการพูดคุย / นัดหมาย

ทุกกิจกรรมที่บันทึกจะช่วยให้คุณและทีมรู้ว่า “เกิดอะไรขึ้นกับลูกค้าคนนี้ไปแล้วบ้าง”

6) เคล็ดลับเล็ก ๆ สำหรับมือใหม่ Zoho CRM

  1. ล็อกอินทุกวัน – ให้ทีมเซลส์เปิด Zoho CRM เป็นหน้าหลักของงานขาย
  2. บันทึกทุกครั้งหลังคุยลูกค้า – ยิ่งบันทึกละเอียด รายงานยิ่งแม่น
  3. เริ่มจากการใช้ไม่กี่โมดูลก่อน – Leads, Contacts, Deals ก็เพียงพอสำหรับเริ่มต้น
  4. ตั้งค่าให้ตรงกับธุรกิจจริง ไม่ต้องลอก textbook – Pipeline และ Field ควรสอดคล้องกับงานหน้างาน
  5. ให้มี “Admin ประจำระบบ” – ดูแลการตั้งค่า, สิทธิ์, Workflow และตอบคำถามทีมขาย

สรุป: เข้าสู่ระบบครั้งเดียว แต่เปลี่ยนวิธีทำงานทั้งทีม

การเข้าสู่ระบบ Zoho CRM ครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่ามีเมนูเยอะไปหมด แต่ถ้าไล่เป็น Step:

  1. สมัครและเข้าสู่ระบบ
  2. ตั้งค่าบริษัท + Timezone + ค่าเงิน
  3. ปรับโมดูลและ Field ที่ใช้งาน
  4. เพิ่ม User และสิทธิ์
  5. นำเข้าข้อมูล + สร้าง Pipeline
  6. เริ่มสร้าง Lead และดีลจริง

แค่ทำครบวงจรนี้ คุณก็วาง “โครงกระดูกของระบบขาย” ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นค่อยต่อยอดด้วย Automation, รายงานขั้น Advance และการเชื่อมต่อกับ Zoho ตัวอื่นในอนาคตได้สบาย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Black Cat Design 👈

Share:

More Posts

ก่อนจ้าง รับออกแบบบูธ ต้องถามอะไรบ้าง? เช็กลิสต์สำหรับเจ้าของแบรนด์

กำลังมองหาทีม รับออกแบบบูธ อยู่ไหม? บทความนี้สรุปคำถามและเช็กลิสต์ที่เจ้าของแบรนด์ควรถามก่อนจ้าง เพื่อให้ได้บูธที่คุ้มค่า ตรงใจ และพร้อมใช้งานจริงในวันออกงาน

รับออกแบบบูธ : พร้อมผลิตและติดตั้ง จบครบในที่เดียวดีอย่างไร

รับออกแบบบูธ พร้อมผลิตและติดตั้งแบบครบวงจร ตั้งแต่ไอเดียแรกจนถึงวันเปิดงาน ทีมเดียวดูแลทุกขั้นตอน คุมงบง่าย ดีไซน์ตรงแบรนด์ งานเสร็จตรงเวลา พร้อมดูแลหน้างานให้คุณมั่นใจทุกอีเวนต์

Send Us A Message