การออกบูธในงานแฟร์ งานแสดงสินค้า หรือเอ็กซ์โปต่าง ๆ ไม่ได้เป็นแค่การ “ไปออกงานตามหน้าที่” อีกต่อไป แต่คือโอกาสสำคัญที่จะให้คนรู้จักแบรนด์ สร้างภาพจำ และต่อยอดเป็นยอดขายในอนาคต
เพราะฉะนั้นก่อนจะเลือกบริษัท รับออกแบบบูธ หรือ รับสร้างบูธ สักเจ้า การถามคำถามให้ครบและเช็กให้ชัวร์ตั้งแต่แรก จะช่วยลดความเสี่ยงงานไม่ตรงใจ งบบานปลาย หรือบูธไม่พร้อมในวันงานจริง บทความนี้จะพาไปดูเช็กลิสต์คำถามที่เจ้าของแบรนด์ควรถาม ก่อนตัดสินใจจ้างผู้ออกแบบบูธทุกครั้ง

1. เป้าหมายของการออกบูธคืออะไร?
ดีไซน์บูธที่ดี ต้องเริ่มจาก “เป้าหมาย” ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น
- ต้องการเก็บรายชื่อลูกค้าใหม่ (Lead)
- ต้องการปิดการขายในงานเลย
- ต้องการสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์แบรนด์
- ต้องการเปิดตัวสินค้า หรือบริการใหม่
สิ่งที่ควรถามทีมรับออกแบบบูธ คือ
- เขาเข้าใจเป้าหมายนี้ชัดแค่ไหน?
- มีวิธีออกแบบโฟลว์การเดินภายในบูธให้สอดคล้องกับเป้าหมายอย่างไร?
- เคยมีเคสคล้าย ๆ กันที่ทำแล้วได้ผลดีไหม? มีตัวอย่างให้ดูหรือเปล่า?
เมื่อทีมดีไซน์เข้าใจว่าบูธของคุณ “ต้องการให้คนทำอะไร” ในช่วงไม่กี่วินาทีที่เดินผ่าน แบบบูธที่ออกมาก็จะตอบโจทย์มากกว่าแค่ความสวยงาม
2. งบประมาณเท่านี้ ได้อะไรบ้าง?
งบประมาณถือเป็นจุดตัดสินใจสำคัญ แต่ไม่ควรดูแค่ตัวเลขรวม ควรขอรายละเอียดให้ชัดเจนว่า “ในงบนี้ คุณจะได้อะไรบ้าง”
คำถามที่ควรถาม เช่น
- งบขั้นต่ำในการรับออกแบบบูธ / รับสร้างบูธ อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
- ในใบเสนอราคา รวมรายการเหล่านี้หรือยัง
- งานออกแบบ 3D และการแก้แบบได้กี่รอบ
- งานโครงสร้าง (ใช้วัสดุอะไร ระดับไหน)
- งานระบบไฟ แสง สี เสียง
- งานกราฟิก ป้ายไฟ สติ๊กเกอร์ พื้นพิมพ์ลาย ฯลฯ
- งานติดตั้งก่อนงาน และงานรื้อถอนหลังจบงาน
- มีค่าใช้จ่ายอื่นที่ยังไม่รวมไหม เช่น ค่าไฟฟ้าในฮอลล์ ค่า Rigging ค่ารถยก ฯลฯ
ถ้าแต่ละบริษัทแยกรายการในใบเสนอราคาชัดเจน คุณจะเปรียบเทียบคุณภาพและความคุ้มค่าได้ง่ายกว่าการดูแต่ราคาก้อนเดียว
3. ดีไซน์บูธสามารถเล่าเรื่องแบรนด์ได้อย่างไร?
บูธที่ดีคือบูธที่คนเดินผ่านแล้ว “เข้าใจทันทีว่าเราเป็นใคร” ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องเล่าเรื่องแบรนด์ได้ด้วย
ลองถามทีมออกแบบบูธว่า
- เก็บข้อมูลแบรนด์ยังไงบ้าง? มีการขอ Brand Guideline หรือ Mood & Tone ไหม
- สามารถออกแบบให้เข้ากับ CI แบรนด์ ทั้งสี ฟอนต์ สไตล์ภาพ ได้มากแค่ไหน
- วางตำแหน่งโลโก้ สโลแกน และข้อความสำคัญของแบรนด์ไว้ตรงไหน เพื่อให้คนจำง่าย
- มีจุดเล่าเรื่องแบรนด์ (Story Corner) หรือจุดให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์แบรนด์อย่างไร เช่น จุดเดโมสินค้า จุดลองเล่น หรือมุมถ่ายรูป
คำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณแยกออกว่า ทีมไหน “แค่รับทำบูธ” กับทีมไหน “ออกแบบบูธให้แบรนด์ของคุณโดยเฉพาะ”
4. ใช้วัสดุอะไร? แข็งแรง ปลอดภัยแค่ไหน?
โครงสร้างบูธคือเรื่องความปลอดภัยโดยตรง ทั้งสำหรับทีมงานและลูกค้าที่เข้ามาในบูธ
ควรสอบถามให้ละเอียดว่า
- ใช้วัสดุอะไรบ้าง เช่น ไม้, เหล็ก, อะลูมิเนียม, ระบบน็อคดาวน์ ฯลฯ
- โครงสร้างรองรับน้ำหนักจอทีวี สินค้า หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากแค่ไหน
- มีวิศวกรหรือทีมเทคนิคช่วยเช็กความแข็งแรงของโครงสร้างหรือไม่
- ถ้าเป็นบูธสูง หรือมีโครงสร้างแขวน มีเอกสารรับรองตามมาตรฐานของฮอลล์จัดงานไหม
บูธที่ดูดีแต่ไม่ปลอดภัย คือความเสี่ยงที่ไม่ควรยอมแลก
5. ขั้นตอนการทำงาน และระยะเวลาเป็นอย่างไร?
อีกปัญหาที่เจ้าของงานกลัวกันมาก คือ “งานไม่เสร็จทันวันเปิดงาน” ซึ่งมักเกิดจากการไม่เคลียร์ขั้นตอน และระยะเวลาให้ชัดเจนตั้งแต่แรก
ลองถามทีมงานว่า
- ขั้นตอนการทำงานมีอะไรบ้าง ตั้งแต่
- เก็บข้อมูล
- เสนอคอนเซ็ปต์และออกแบบ 3D
- ปรับแก้แบบ
- ผลิตงานโครงสร้างและกราฟิก
- ติดตั้งหน้างาน
- รื้อถอนหลังจบงาน
- แต่ละขั้นตอนใช้เวลาประมาณกี่วัน / กี่สัปดาห์
- การสื่อสารหลักใช้ช่องทางไหน มีคนประสานงานหลักให้ไหม
- ถ้ามีการแก้ไขด่วน ใกล้วันงานมาก ๆ ทีมสามารถรองรับได้หรือเปล่า
เมื่อเห็นภาพไทม์ไลน์ชัดเจน คุณจะวางแผนเรื่องคอนเทนต์ โปรโมชั่น และการเตรียมทีมเซลส์ได้ง่ายขึ้นมาก
6. มีประสบการณ์กับงานแฟร์แบบที่คุณจะไปออกหรือไม่?
งานแสดงสินค้าแต่ละประเภทมีกฎ ระเบียบ และข้อจำกัดต่างกัน เช่น เรื่องความสูงบูธ พื้นที่ติดตั้ง ระบบไฟ หรือทางเข้าออกของสินค้า
ควรถามให้ชัดว่า
- ทีมเคยทำบูธในงานประเภทเดียวกับที่คุณจะไปไหม เช่น งานอุตสาหกรรม งานอาหาร งานแพทย์ งานไอที ฯลฯ
- เข้าใจกฎของ Organizer และฮอลล์จัดงานแค่ไหน
- เคยเจอปัญหาหน้างานแบบไหนบ้าง และมีวิธีแก้ไขอย่างไร
ประสบการณ์ในงานแฟร์ที่ใกล้เคียงกัน จะช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากข้อจำกัดหน้างานได้เยอะ
7. มีทีมดูแลหน้างานและหลังการติดตั้งหรือไม่?
ในวันเปิดงานจริง มักมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเสมอ เช่น ไฟไม่ติด ป้ายหลุด จอตั้งไม่ตรง หรือโครงสร้างบางจุดต้องขยับใหม่ หากไม่มีทีมซัพพอร์ต จะเครียดมาก
ลองถามเพิ่มว่า
- หลังติดตั้งเสร็จ มีทีมช่างหรือทีมเทคนิค standby ในวันแรกหรือไม่
- ถ้าเกิดปัญหาในช่วงงาน ติดต่อใคร และใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ในการเข้ามาแก้ไข
- ถ้าต้องการเก็บบูธไว้ใช้ซ้ำ สามารถถอด เก็บ และนำมารีดีไซน์ปรับใช้ใหม่ได้ไหม มีค่าใช้จ่ายอย่างไร
สิ่งเหล่านี้คือความสบายใจที่ควรถามให้ครบก่อนเซ็นจ้างงาน
8. เอกสาร สัญญา และการรับประกันงาน
สุดท้าย ก่อนปิดดีลควรเช็กเรื่องเอกสารให้เรียบร้อย
- มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ ระบุขอบเขตงาน (Scope of Work) ชัดเจนแค่ไหน
- เงื่อนไขการชำระเงินเป็นอย่างไร มัดจำเท่าไหร่ จ่ายงวดสุดท้ายเมื่อไหร่
- การรับประกันงานโครงสร้าง ระบบไฟ และองค์ประกอบหลักของบูธ ระบุไว้ในสัญญาหรือไม่
สัญญาที่ดีจะช่วยป้องกันความเข้าใจผิด และทำให้ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจ
สรุป: เลือกทีม รับออกแบบบูธ ให้ดี บูธก็พร้อมพาแบรนด์ไปต่อ
ก่อนจ้างทีม รับออกแบบบูธ หรือ รับสร้างบูธ ครั้งต่อไป ลองใช้เช็กลิสต์คำถามเหล่านี้ช่วยคุยกับผู้รับเหมา คุณจะเห็นชัดขึ้นว่าทีมไหนเข้าใจแบรนด์ เข้าใจเป้าหมาย และทำงานอย่างมืออาชีพจริง ๆ
เมื่อได้พาร์ทเนอร์ที่ใช่ บูธของคุณจะไม่ใช่แค่ “พื้นที่จัดแสดงสินค้า” แต่จะกลายเป็นพื้นที่ที่ช่วยเล่าเรื่องแบรนด์ ดึงดูดลูกค้า และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในทุกงานที่คุณไปออกบูธ
หากสนใจติดต่อได้ที่ Facebook นี้ได้เลย คลิ๊ก!!
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ 👈



