สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือทีมขายที่กำลังมองหาระบบ CRM เข้ามาช่วยจัดการลูกค้า คำถามยอดฮิตคือ
“ใช้ Zoho CRM แบบฟรีพอไหม หรือควรอัปเกรดเป็นเสียเงินเลยดี?”
บทความนี้จะพาไล่ทีละมุมว่าเวอร์ชันฟรีเหมาะกับใคร ข้อดี ข้อจำกัดมีอะไรบ้าง และควรตัดสินใจยังไงให้คุ้มที่สุดกับธุรกิจของคุณ

Zoho CRM ฟรีคืออะไร?
Zoho CRM แบบฟรี คือแพ็กเกจที่ให้ธุรกิจเริ่มใช้ระบบ CRM ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เหมาะกับคนที่อยากลอง:
- เก็บข้อมูลลูกค้าในระบบกลางแทน Excel / Line / แชท
- ให้ทีมขายเริ่มใช้ Pipeline เดียวกัน
- ทดสอบว่า Flow การทำงานของทีมเข้ากับ Zoho CRM หรือไม่
โดยเวอร์ชันฟรีจะยังรองรับฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น
- บันทึก Leads / Contacts / Deals
- จัดการ กิจกรรมการขาย (โทร, นัด, งานที่ต้องทำ)
- ใช้งานผ่านเว็บและแอปมือถือ
- มีรายงานพื้นฐานบางส่วน
แต่จะมีข้อจำกัดหลายอย่างเมื่อเทียบกับเวอร์ชันเสียเงิน
ข้อดีของการใช้ Zoho CRM ฟรี
1) ต้นทุนเริ่มต้น = 0 บาท
เหมาะมากสำหรับ:
- ธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น
- อยากทดลองใช้ CRM ก่อนตัดสินใจลงทุน
- เจ้าของกิจการที่อยากลองใช้เองก่อนให้ทีมใช้ตาม
2) ได้ลองโครงสร้าง CRM จริง ๆ
ต่อให้ใช้แบบฟรี คุณก็ได้สัมผัส:
- โครงสร้าง Leads → Contacts → Deals
- วิธีจัดการ Pipeline
- การบันทึกโน้ต, ติดตามกิจกรรม, ตามงานลูกค้า
ทำให้เห็นภาพชัดว่า “องค์กรเราเหมาะกับการใช้ CRM แบบไหน”
3) ฝึกทีมให้คุ้นกับการใช้ระบบ
ก่อนจะจ่ายเงินซื้อหลายยูสเซอร์ ใช้เวอร์ชันฟรีให้ทีมเล็ก ๆ ลอง:
- ฝึกวินัยการบันทึกข้อมูลลูกค้า
- ฝึกตั้งดีล ติดตามสเตจ
- ฝึกดูรายงานจากระบบ แทนการเดาจากความรู้สึก
ข้อจำกัดสำคัญของ Zoho CRM ฟรี
นี่คือจุดที่ต้องพิจารณาให้ดี ก่อนตัดสินใจใช้จริงในระยะยาว
1) จำนวนผู้ใช้และความสามารถในการแบ่งสิทธิ์
แพ็กเกจฟรีมักจำกัดจำนวนผู้ใช้ และตัวเลือกการกำหนดสิทธิ์ (ว่าใครเห็นข้อมูลอะไรได้บ้าง)
ถ้าทีมขายเริ่มใหญ่ หรือมีข้อมูลที่ต้องการจำกัดการเข้าถึง เวอร์ชันฟรีอาจไม่พอ
2) ฟีเจอร์ Automation มีจำกัด
จุดเด่นของ Zoho CRM จริง ๆ คือ:
- Workflow Automation
- Blueprint
- การทำงานร่วมกับแอปอื่นใน Ecosystem
ในเวอร์ชันฟรี มักจะ:
- ใช้ Automation ได้น้อย หรือไม่ได้เลยในบางฟังก์ชัน
- เชื่อม Integrations ขั้น Advance ไม่ได้
แปลว่า “งานตามงานเยอะ ๆ” ยังต้องใช้แรงคนอยู่มาก
3) รายงาน (Reports & Dashboards) แบบ Advance ยังไม่มี
สำหรับธุรกิจที่อยากดู:
- การเปรียบเทียบยอดขาย
- Conversion Rate ละเอียด
- Performance ทีมขายเชิงลึก
มักต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจเสียเงิน ถึงจะใช้พวกนี้ได้เต็มที่
4) การเชื่อมต่อกับแอปอื่นของ Zoho
ถ้าคุณมีแผนจะใช้ Zoho ตัวอื่นร่วมด้วย เช่น:
- Zoho Books (บัญชี / ใบเสนอราคา / ใบกำกับภาษี)
- Zoho Desk (ระบบทิคเก็ต / เซอร์วิส)
- Zoho Campaigns / Marketing Automation
เวอร์ชันฟรีของ Zoho CRM จะถูกจำกัดเรื่องการเชื่อมข้อมูลและ Automation ระหว่างระบบ
Zoho CRM ฟรี เหมาะกับใคร?
เหมาะกับ:
- ธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่มีทีมขายใหญ่
- เจ้าของกิจการที่อยากลองใช้ CRM ด้วยตัวเองก่อน
- ธุรกิจที่ยังไม่แน่ใจว่า “ทีมจะยอมใช้ระบบจริงไหม”
- คนที่ต้องการทดลอง Flow ระบบ ก่อนลงทุนจริง
อาจไม่เหมาะถ้า:
- มีทีมขายหลายคน แยกดูยอด/โควต้าแต่ละคน
- ต้องการ Automation เยอะ ๆ
- ต้องใช้รายงานเชิงลึกสำหรับวางแผนธุรกิจ
- อยากให้ CRM เชื่อมกับระบบอื่น (บัญชี, ตั๋วบริการ, การตลาด ฯลฯ)
ใช้ฟรีแล้วควรอัปเกรดเมื่อไหร่?
ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้:
- ทีมเริ่มเยอะจนข้อมูลปนกัน ดูไม่ออกว่าใครดูแลลูกค้าคนไหนหรือยัง?
- คุณเริ่มเหนื่อยกับการตามงานเอง และอยากให้ระบบช่วยแจ้งเตือน / สร้าง Task อัตโนมัติ?
- คุณเริ่มต้องใช้รายงานจริงจังในการประชุม วางเป้า และวัดผลทีมขาย?
- เริ่มมีระบบอื่นในองค์กรที่อยากเชื่อม เช่น บัญชี, เว็บไซต์, ระบบบริการหลังการขาย?
ถ้าตอบ “ใช่” ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป แปลว่าธุรกิจคุณกำลังโตเกินเวอร์ชันฟรีแล้ว และการอัปเกรดไปใช้แพ็กเกจเสียเงินจะ “คุ้มกว่าในระยะยาว” ทั้งในแง่เวลาและโอกาสยอดขายที่ไม่หลุดมือ
แล้วสรุปคือ… Zoho CRM ฟรี คุ้มไหม?
คำตอบแบบสั้น:
- คุ้มมาก สำหรับ “ทดลอง / เริ่มต้น / ธุรกิจเล็ก” ที่อยากฝึกทีมให้คุ้นกับ CRM
- อาจไม่พอ สำหรับธุรกิจที่ “เอาจริงกับระบบขาย” และต้องการ Automation + รายงาน + การเชื่อมต่อระบบอื่น
Zoho CRM ฟรี เปรียบเหมือน ตัวอย่างทดลอง ให้คุณรู้ก่อนว่า CRM คืออะไร ใช้งานยังไง และเหมาะกับทีมคุณหรือไม่
ถ้าใช้แล้วเวิร์ก การอัปเกรดคือการต่อยอดจากรากฐานเดิม ไม่ต้องเริ่มใหม่ให้เสียเวลา
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Black Cat Design 👈



