การทำบูธให้ “ออกมาสวย ตรงแบรนด์ และคุมงบได้” ไม่ได้เริ่มที่การออกแบบ แต่เริ่มที่ “ข้อมูล” ที่คุณส่งให้ทีมออกแบบตั้งแต่แรก เพราะบรีฟที่ชัดจะช่วยลดการแก้งาน ลดความเสี่ยงหน้างาน และทำให้ได้แบบที่พร้อมผลิตจริงเร็วขึ้น คู่มือนี้คือเช็กลิสต์ข้อมูลสำคัญที่ควรเตรียมก่อนส่งให้บริษัทรับออกแบบบูธ

คู่มือเตรียมข้อมูลก่อนส่งให้บริษัทรับออกแบบบูธ (Checklist ใช้งานได้จริง)
1) ข้อมูลงานอีเวนต์/สถานที่จัดงาน
- ชื่องาน + วันที่จัด + เวลาเข้า-ออกหน้างาน (วันติดตั้ง/รื้อถอน)
- สถานที่/ฮอลล์/หมายเลขบูธ
- ผังพื้นที่ (Floor Plan) หรือเอกสารที่ผู้จัดให้มา
- กฎระเบียบผู้จัด (ความสูงบูธ, ระยะถอยร่น, จุดห้ามบัง, งานแขวน, ไฟฟ้า, เสียง, เวลาโหลดของ)
ผลลัพธ์ที่ได้: ลดปัญหา “แบบสวยแต่ทำไม่ได้จริง” และลดค่าใช้จ่ายแก้หน้างาน
2) ขนาดพื้นที่บูธ + ตำแหน่งเปิดหน้าบูธ
- ขนาดพื้นที่ (เช่น 3×3, 3×6, 6×6 เมตร)
- บูธเปิดกี่ด้าน (เปิด 1/2/3/4 ด้าน)
- เสา/ผนัง/ทางหนีไฟ/จุดห้ามกีดขวางใกล้เคียง
- จุดไฟฟ้า/อินเทอร์เน็ต/น้ำ (ถ้ามี)
3) เป้าหมายของบูธ (ต้องการให้คนทำ “อะไร”)
เลือก 1–3 เป้าหมายหลักให้ชัด เช่น
- เก็บลีด/ปิดการขาย/นัดเดโม/เปิดตัวสินค้าใหม่
- สร้างการรับรู้แบรนด์/ถ่ายรูปเช็คอิน/แจกของ
- โชว์สินค้าเยอะ / โชว์ไฮไลต์ตัวเดียวแบบพรีเมียม
ทริค: ถ้าเป้าหมายคือ “เก็บลีด” ควรมีจุดยืนคุย + เคาน์เตอร์ + Flow การรับคนที่ชัด
4) ข้อมูลแบรนด์ (Brand Kit)
- โลโก้ไฟล์เวกเตอร์ (AI/EPS/SVG/PDF) + ไฟล์ PNG พื้นหลังใส
- โทนสีหลัก/รอง (รหัสสี) + ฟอนต์ที่ใช้
- Mood & Tone ที่อยากได้ (โมเดิร์น/พรีเมียม/เทค/มินิมอล/สนุก)
- ตัวอย่างงานที่ชอบ/ไม่ชอบ (แนบรูป 3–5 แบบ)
5) สินค้า/บริการที่จะโชว์
- รายการสินค้า/รุ่น/ขนาด (กว้าง-ยาว-สูง/น้ำหนัก)
- จำนวนชิ้นที่ต้องโชว์ + จำนวนสต็อกสำรองหลังบูธ
- สินค้าที่ต้อง “หยิบลอง/เดโม” หรือ “โชว์อย่างเดียว”
- อุปกรณ์ประกอบ (แท่นโชว์, ชั้น, ราวแขวน, ล็อกกันขโมย)
6) ฟังก์ชันที่ต้องมีในบูธ
เลือกสิ่งจำเป็นก่อน เช่น
- เคาน์เตอร์ต้อนรับ / จุดรับลีด / จุดชำระเงิน
- ห้องเก็บของ (Storage) / ตู้เก็บของมีล็อก
- TV/LED / จอสัมผัส / Sound / ไฟโชว์สินค้า
- พื้นยก, Backdrop, Lightbox, โลโก้ไฟ/ตัวอักษรนูน
- ที่นั่งคุย (กี่ชุด/กี่ที่นั่ง) + ระดับความเป็นส่วนตัว
7) เส้นทางการเดินคน (Booth Flow)
- คาดการณ์จำนวนคน/ช่วงเวลาพีค
- อยากให้คน “เข้าทางไหน-ออกทางไหน”
- จุดดึงดูดหลัก (Hero) อยู่ตรงไหน: โลโก้, สินค้าไฮไลต์, กิจกรรม
8) งบประมาณ + ระดับวัสดุที่ยอมรับ
- งบประมาณรวม (หรือช่วงงบ) เพื่อให้ทีมออกแบบตีโจทย์ถูก
- ต้องการ “ใช้ซ้ำได้กี่ครั้ง” (งานเดียว/หลายงาน)
- ชอบงานวัสดุแบบไหน: งานพิมพ์, งานไม้, งานโครงสร้าง, อะคริลิก, LED, ผิวพรีเมียม ฯลฯ
ข้อดีของการบอกงบ: ช่วยให้ดีไซน์ “สวยในงบ” ไม่หลุดไปไกลแล้วต้องตัดทีหลัง
9) ไทม์ไลน์/เดดไลน์ที่ต้องล็อก
- วันต้องได้แบบ 3D / วันสรุปแบบผลิต
- วันเริ่มผลิต / วันติดตั้ง
- เงื่อนไขการแก้งาน (กี่รอบ) และผู้มีอำนาจอนุมัติแบบ
10) ไฟล์และสิ่งที่ควรส่งให้ครบ (ส่งเป็นแพ็กเดียว)
แนะนำโฟลเดอร์ 1 ชุดประกอบด้วย
- 01_BoothInfo (ขนาดบูธ/กฎผู้จัด/ผังพื้นที่)
- 02_Brand (โลโก้/สี/ฟอนต์/CI)
- 03_Product (ขนาดสินค้า/รูป/จำนวน)
- 04_Ref (ตัวอย่างที่ชอบ/ไม่ชอบ)
- 05_Content (ข้อความบนบูธ/สโลแกน/จุดขาย)
- 06_TimelineBudget (งบ/เดดไลน์/ผู้อนุมัติ)
สรุปท้ายเรื่อง
สรุปแล้ว “บูธที่สวยและใช้งานขายได้จริง” เริ่มจากการเตรียมข้อมูลให้ครบตั้งแต่แรก—ทั้งขนาดพื้นที่ กฎผู้จัด เป้าหมายบูธ ไฟล์แบรนด์ รายการสินค้า ฟังก์ชันที่ต้องมี งบ และเดดไลน์ เมื่อบรีฟชัด ทีมออกแบบจะทำแบบ 3D และแบบพร้อมผลิตได้เร็วขึ้น ลดการแก้หน้างาน และคุมงบได้ง่ายกว่าเดิม
ถ้าคุณกำลังมองหาทีมที่ทำได้ครบทั้ง ออกแบบบูธ 3D + วางฟังก์ชันให้ใช้งานจริง + ผลิตและติดตั้งหน้างาน แนะนำ Black Cat Design เพราะช่วยแปลงบรีฟให้เป็นบูธที่ “ตรงแบรนด์ เด่นในฮอลล์ และพร้อมใช้งานหน้างานจริง” เหมาะทั้งงานออกบูธครั้งแรกและแบรนด์ที่ต้องการยกระดับภาพลักษณ์ในงานแฟร์/นิทรรศการ
หากสนใจติดต่อได้ที่ Facebook นี้ได้เลย คลิ๊ก!!
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ 👈



