เจาะ 7 ธุรกิจดาวรุ่ง – ร่วงปี 2023

เจาะ 7 ธุรกิจดาวรุ่ง – ร่วงปี 2023

เจาะ 7 ธุรกิจ เศรษฐกิจโลกและไทยในปี 2023 ยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลายประการ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่หมดไป ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้แนวโน้มของธุรกิจในปีนี้มีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้วิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจไทยในปี 2023 โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจดาวรุ่งและธุรกิจร่วง โดยธุรกิจดาวรุ่งเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง ส่วนธุรกิจร่วงเป็นธุรกิจที่มีโอกาสหดตัวหรือลดลง

ธุรกิจดาวรุ่งปี 2023

1. ธุรกิจการแพทย์และความงาม ธุรกิจนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์และเทคโนโลยีความงามมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

2. ธุรกิจ e-commerce ธุรกิจนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป นิยมซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

3. ธุรกิจ Social Media และ Online Entertainment ธุรกิจนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น ต้องการความบันเทิงและเชื่อมต่อกับผู้อื่นผ่านโซเชียลมีเดีย

4. ธุรกิจด้าน fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี ธุรกิจนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนนิยมใช้บริการทางการเงินและชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยีมากขึ้น

5. ธุรกิจงานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจอีเวนต์ ธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโต เนื่องจากผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น ต้องการความบันเทิงและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ

6. ธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ใบกระท่อม ธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโต เนื่องจากไทยมีการปลดล็อกกัญชาและใบกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ

7. ธุรกิจเกี่ยวกับหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโต เนื่องจากเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และถูกนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม

ธุรกิจร่วงปี 2023

1. ธุรกิจให้สินเชื่อปล่อยกู้ ธุรกิจนี้มีโอกาสหดตัว เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนที่สูง และหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่ทางการเน้นการปล่อยกู้อย่างรับผิดชอบ รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น

2. ธุรกิจขายที่อยู่อาศัยและรถยนต์ ธุรกิจนี้มีโอกาสหดตัว เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาขายต่อหน่วยที่มีมูลค่าสูง การใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น รวมทั้งหลักเกณฑ์ที่ผ่อนปรนน้อยลงและดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

3. ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ธุรกิจนี้มีโอกาสหดตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย และนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมาเท่าเดิม

4. ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจนี้มีโอกาสหดตัว เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป นิยมรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่บ้านมากขึ้น

5. ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม ธุรกิจนี้มีโอกาสหดตัว เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป นิยมซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

6. ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ธุรกิจนี้มีโอกาสหดตัว เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป นิยมรับข่าวสารและข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

7. ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ธุรกิจนี้มีโอกาสหดตัว เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยครั้งขึ้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ

ทั้งนี้ แนวโน้มของธุรกิจในปี 2023 ยังมีความไม่แน่นอนสูง ผู้ประกอบการควรติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

>>Blackcatdesign รับทำเว็บไซต์ ช่วยสร้างยอดขายให้ธุรกิจของคุณเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง เรามีประสบการณ์รับทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ด้วยทีมงานมืออาชีพหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Line OA เว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์ E-commerce ดูแล Facebook Page ออกแบบภาพกราฟิก ไปจนถึงดูแลโฆษณา Google ใช้ช่องทางออนไลน์ที่เหมาะสม ช่วยสร้างยอดขายให้ธุรกิจของคุณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด<<