5 รูปแบบบูธแสดงสินค้ายอดฮิต เลือกแบบไหนให้เหมาะกับแบรนด์ของคุณ

เจาะลึก 5 รูปแบบบูธแสดงสินค้ายอดฮิต! เลือกอย่างไรให้โดดเด่นสะดุดตา พร้อมเทคนิคการเลือกโครงสร้างบูธให้เหมาะกับภาพลักษณ์แบรนด์และงบประมาณ เพื่อสร้างความประทับใจและยอดขายในงานอีเวนต์

5 รูปแบบบูธแสดงสินค้ายอดฮิต เลือกแบบไหนให้ “ใช่” และโดดเด่นที่สุดในงานอีเวนต์

ในการออกงานแสดงสินค้า (Exhibition) สิ่งแรกที่ลูกค้าจะใช้ตัดสินว่าจะเดินเข้าหาคุณหรือไม่ก็คือ “ดีไซน์และรูปแบบของบูธ” การเลือกประเภทบูธที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและตัวตนของแบรนด์ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 5 รูปแบบบูธยอดนิยม พร้อมคำแนะนำในการเลือกให้ตอบโจทย์ธุรกิจคุณ

1. บูธน็อคดาวน์ / บูธสำเร็จรูป (Standard Booth / Shell Scheme)

เป็นรูปแบบมาตรฐานที่ผู้จัดงานเตรียมไว้ให้ ส่วนใหญ่มีขนาด 3×3 เมตร มาพร้อมผนังสีขาวและพรมสีมาตรฐาน

  • เหมาะกับใคร: แบรนด์เริ่มต้น, SME หรือธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัด
  • จุดเด่น: ประหยัดค่าใช้จ่าย ติดตั้งเร็ว ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องโครงสร้าง
  • Tips ให้เด่น: ใช้ Roll-up หรือ Backdrop ผ้าที่มีกราฟิกสีสันสดใสเพื่อกลบความจืดชืดของผนังเดิม

2. บูธโครงสร้างพิเศษ (Creative Design Booth)

บูธที่ออกแบบและสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด (Custom Build) มักใช้ไม้ เหล็ก หรือวัสดุพิเศษเพื่อให้ได้รูปทรงตามที่แบรนด์ต้องการ

  • เหมาะกับใคร: แบรนด์ใหญ่ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม หรือต้องการสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน
  • จุดเด่น: ดีไซน์ได้ไร้ขีดจำกัด จัดวางฟังก์ชันการใช้งานได้ตามใจ เช่น ห้องรับรองพิเศษ หรือโซนสาธิตสินค้า
  • Tips ให้เด่น: ใส่ระบบไฟ (Lighting) และ Interactive Media เช่น จอ LED ขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดสายตา

3. บูธระบบนิทรรศการ (System Frame Booth)

ใช้โครงสร้างอลูมิเนียมประกอบเข้ากับแผ่นผนัง (System Truss) สามารถต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนรูปร่างได้หลากหลาย

  • เหมาะกับใคร: แบรนด์ที่ออกงานบ่อยครั้ง และต้องการความยืดหยุ่นในเรื่องพื้นที่
  • จุดเด่น: แข็งแรงกว่าบูธสำเร็จรูป แต่ราคาถูกกว่าบูธโครงสร้างพิเศษ สามารถถอดประกอบและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
  • Tips ให้เด่น: เลือกใช้วัสดุโปร่งแสงหรือการตกแต่งด้วยอะคริลิคจะช่วยให้บูธดูทันสมัย (Modern Look) มากขึ้น

4. บูธผ้า (Fabric Exhibition Display)

เทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรง ใช้โครงสร้างน้ำหนักเบาหุ้มด้วยผ้าพิมพ์ลายกราฟิกแบบไร้รอยต่อ

  • เหมาะกับใคร: ธุรกิจที่เน้นความทันสมัย สไตล์ Minimal หรือทีมงานที่ต้องเดินทางไปออกงานต่างจังหวัดบ่อยๆ
  • จุดเด่น: ติดตั้งง่ายมาก (ใช้คนเพียง 1-2 คน) ขนส่งสะดวก และภาพกราฟิกดูเรียบเนียนไม่มีรอยต่อพับ
  • Tips ให้เด่น: เน้นงานกราฟิกที่มีความละเอียดสูง (High Resolution) และใช้คู่กับเคาน์เตอร์ผ้าที่เข้าชุดกัน

5. บูธป๊อปอัพ / บูธเคลื่อนที่ (Pop-up & Portable Display)

อุปกรณ์จัดบูธที่พับเก็บได้และกางออกได้ง่าย เช่น Backdrop แบบสปริง หรือโต๊ะชิมชิม

  • เหมาะกับใคร: งานกิจกรรมชงชิม, โรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้า หรือบูธโปรโมชั่นสั้นๆ
  • จุดเด่น: คล่องตัวสูงที่สุด ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย และราคาย่อมเยา
  • Tips ให้เด่น: การจัดวางสินค้า (Product Display) ต้องอยู่ในระดับสายตา และเน้นป้ายโปรโมชั่นที่อ่านง่ายในระยะ 3 เมตร

ตารางสรุป: เลือกบูธแบบไหนให้เหมาะกับแบรนด์คุณ?

ประเภทบูธระดับงบประมาณความโดดเด่นการนำกลับมาใช้ใหม่
สำเร็จรูปประหยัดต่ำไม่ได้ (โครงสร้างยืม)
โครงสร้างพิเศษสูงสูงมากยาก / ไม่ได้
ระบบเฟรมปานกลางปานกลางได้ดีมาก
บูธผ้าปานกลางสูงได้ง่ายมาก
ป๊อปอัพประหยัดปานกลางได้ดีมาก

สรุปการเลือกให้เหมาะกับแบรนด์

หากคุณคือ “แบรนด์หรู” บูธโครงสร้างพิเศษคือคำตอบ แต่ถ้าคุณคือ “สายเทคโนโลยี” บูธผ้าหรือเฟรมอลูมิเนียมจะช่วยเสริมลุคให้ดู Smart และทันสมัย ที่สำคัญที่สุดคืออย่าลืมคำนึงถึง “การเดินทางของผู้ใช้ (Customer Journey)” ภายในบูธ เพื่อเปลี่ยนจาก “คนเดินผ่าน” ให้กลายเป็น “ลูกค้า” ของคุณจริงๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ 👈

Share:

More Posts

ออกแบบบูธ ยังไงให้ขายได้จริง? ผสานดีไซน์กับฟังก์ชันใช้งานอย่างลงตัว

เจาะลึกเคล็ดลับออกแบบบูธแสดงสินค้าให้ยอดขายปัง! ผสานดีไซน์ที่ดึงดูดเข้ากับฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง พร้อมกลยุทธ์จัดวางพื้นที่ให้ปิดการขายได้ทันที

Send Us A Message